โรคแผลริมอ่อน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Haemophilus ducreyi ซึ่งทำให้เกิดแผลเปิดที่บริเวณอวัยวะเพศ และบริเวณรอบ ๆ ในบางกรณีอาจทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวม และเกิดเป็นฝีหนอง โรคนี้พบมากในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูง และในกลุ่มผู้ที่มีคู่นอนหลายคนโดยไม่ใช้วิธีป้องกันที่เหมาะสม แม้ว่าโรคแผลริมอ่อนจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีได้สูงขึ้น ดังนั้น การป้องกัน และรู้เท่าทันโรคนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

โรคแผลริมอ่อน คืออะไร?
โรคแผลริมอ่อน (Chancroid) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Haemophilus ducreyi ซึ่งทำให้เกิดแผลเปิดที่บริเวณอวัยวะเพศ และสามารถแพร่กระจายไปยังคู่นอนได้ง่ายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน รวมถึงการสัมผัสโดยตรงกับแผลที่ติดเชื้อ
โรคนี้สามารถพบได้ใน ทั้งชาย และหญิง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือผู้ที่ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การแพร่กระจายของโรคแผลริมอ่อน
โรคแผลริมอ่อนแพร่กระจายผ่าน การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน และการสัมผัสโดยตรงกับแผลของผู้ติดเชื้อ
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย (ช่องคลอด ทวารหนัก หรือออรัลเซ็กซ์)
- การสัมผัสแผลโดยตรง เช่น การสัมผัสแผลที่มีเชื้อโดยไม่ได้ล้างมือ และนำไปสัมผัสส่วนอื่นของร่างกาย
- จากแม่สู่ลูกในระหว่างการคลอด (กรณีที่มารดามีแผลริมอ่อน และคลอดทางช่องคลอด)
อาการของโรคแผลริมอ่อน
อาการของโรคแผลริมอ่อนมักปรากฏภายใน 3-10 วัน หลังจากได้รับเชื้อ โดยลักษณะอาการหลัก ๆ มีดังนี้
- แผลเปิดบริเวณอวัยวะเพศ
- ลักษณะของแผลมีขอบนูนแดง และเป็นหนอง
- แผลมักมีลักษณะ เจ็บปวด และอาจมีขนาดแตกต่างกันไป
- แผลสามารถเกิดขึ้นเป็นแผลเดียวหรือหลายแผลกระจายตัว
- อาจมีเลือดซึมออกมาจากแผลเมื่อสัมผัส
- ต่อมน้ำเหลืองโต และอักเสบ
- ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบอาจ บวมโต เจ็บปวด และเกิดเป็นฝีหนอง
- ฝีหนองอาจแตกออก ทำให้มีของเหลวไหลออกมา
- ในบางกรณี ต่อมน้ำเหลืองอักเสบอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดในการเดินหรือเคลื่อนไหว
- อาการอื่น ๆ ที่อาจพบร่วม
- มีไข้ต่ำ ๆ
- รู้สึกไม่สบายตัว
- อาการปวดหรือเจ็บแผลขณะปัสสาวะหรือขณะมีเพศสัมพันธ์
หากไม่รับการรักษาอย่างถูกต้อง แผลอาจลุกลาม และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้น รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีได้สูงขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนของโรคแผลริมอ่อน
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โรคแผลริมอ่อนอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงขึ้น เช่น
- แผลลุกลาม และติดเชื้อแทรกซ้อน หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี แผลอาจเกิดการอักเสบรุนแรงจนเป็นแผลเรื้อรัง
- การติดเชื้อเอชไอวีง่ายขึ้น ผู้ที่มีแผลริมอ่อนมีความเสี่ยงสูงกว่าปกติในการติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากแผลเปิดทำให้ไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
- เกิดแผลเป็น หรือความผิดปกติของอวัยวะเพศ หากแผลหายช้า หรือมีการอักเสบซ้ำ ๆ อาจทำให้เกิดพังผืด และรอยแผลเป็นที่อวัยวะเพศ
- ต่อมน้ำเหลืองอักเสบจนเป็นฝีหนองขนาดใหญ่ ฝีหนองที่ขาหนีบอาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง และทำให้เกิดอาการเจ็บปวดรุนแรง

แนวทางการรักษาโรคแผลริมอ่อน
โรคแผลริมอ่อนสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย Haemophilus ducreyi อย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้ยาปฏิชีวนะ
- Azithromycin ขนาด 1 กรัม รับประทานครั้งเดียว
- Ceftriaxone ขนาด 250 มิลลิกรัม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
- Erythromycin ขนาด 500 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน
- การดูแลแผล
- ควรล้างแผลด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดทุกวัน
- หลีกเลี่ยงการแกะแผลเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
- หากมีฝีหนองที่ขาหนีบ อาจต้องให้แพทย์ทำการระบายหนองออก
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการรักษา ควรงดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะแน่ใจว่าโรคหายขาดและไม่มีการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น
วิธีป้องกันโรคแผลริมอ่อน
เนื่องจากโรคนี้แพร่กระจายผ่านทางเพศสัมพันธ์เป็นหลัก การป้องกันที่ดีที่สุดคือการปฏิบัติตัวอย่างปลอดภัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ โดยสามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าถุงยางอนามัยจะไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่ช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
- หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงแผลริมอ่อน
- ตรวจสุขภาพทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำควรเข้ารับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุก 6 เดือน หรือบ่อยขึ้นหากมีพฤติกรรมเสี่ยง
- ห ลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล หากพบว่าคู่ของคุณมีแผลผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะได้รับการวินิจฉัย และรักษา
- ดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศ ล้างอวัยวะเพศด้วยน้ำอุ่น ละสบู่อ่อน ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
- รู้จักโรคเริม ภัยเงียบจากไวรัสที่ควรรู้จัก พร้อมวิธีป้องกัน และรักษา
- โรคฝีมะม่วง คืออะไร? สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม
โรคแผลริมอ่อน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถป้องกันได้หากมีพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัย การใช้ถุงยางอนามัย ตรวจสุขภาพเป็นประจำ และมีการดูแลสุขอนามัยที่ดี จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ หากพบอาการผิดปกติ ควรเข้ารับการตรวจรักษาทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าเดิม