Tag: การป้องกันโรคฝีดาษลิง

  • โรคฝีดาษลิง คืออะไร? อาการ วิธีป้องกัน และการรักษา

    โรคฝีดาษลิง คืออะไร? อาการ วิธีป้องกัน และการรักษา

    โรคฝีดาษลิง เป็นโรคที่เกิดจาก ไวรัสฝีดาษลิง ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดไข้ทรพิษ แม้ว่าโรคฝีดาษลิงจะไม่รุนแรงเท่าฝีดาษคน (ไข้ทรพิษ) ซึ่งถูกกำจัดไปแล้วจากโลกนี้ แต่ไวรัสชนิดนี้ยังคงแพร่กระจาย และสามารถทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้

    โรคนี้เป็น โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน (Zoonotic disease) ซึ่งเดิมพบมากในประเทศแถบแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พบการแพร่ระบาดของฝีดาษลิงในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงยุโรป อเมริกา และเอเชีย เนื่องจาก โรคฝีดาษลิงสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ และมีความสัมพันธ์กับการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ โรคนี้จึงได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดนอกทวีปแอฟริกา

    โรคฝีดาษลิง คืออะไร? อาการ วิธีป้องกัน และการรักษา

    โรคฝีดาษลิง คืออะไร?

    โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เป็นโรคที่เกิดจาก ไวรัสฝีดาษลิง (Monkeypox Virus – MPXV) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดไข้ทรพิษ (Smallpox หรือ Variola Virus) แม้ว่าฝีดาษลิงจะไม่รุนแรงเท่าฝีดาษคน (ไข้ทรพิษ) ซึ่งถูกกำจัดไปแล้วจากโลกนี้ แต่ไวรัสชนิดนี้ยังคงแพร่กระจาย และสามารถทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้

    ลักษณะของโรคฝีดาษลิง

    • สามารถติดต่อได้ทั้งจาก สัตว์สู่คน และ คนสู่คน
    • ผู้ติดเชื้อมักมีอาการคล้ายกับไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า
    • พบมากในสัตว์ตระกูลสัตว์ฟันแทะ (Rodents) และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น ลิง
    • สามารถแพร่เชื้อผ่าน การสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่ง แผล ตุ่มน้ำ หรือสารคัดหลั่งของสัตว์ และคนที่ติดเชื้อ

    ฝีดาษลิงไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ แต่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษในช่วงปี 2022 เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ในหลายประเทศที่ไม่เคยพบโรคนี้มาก่อน

    อาการของโรคฝีดาษลิง

    อาการของฝีดาษลิงมักเกิดขึ้นภายใน 5-21 วันหลังจากได้รับเชื้อ (ระยะฟักตัว) โดยอาการสามารถแบ่งเป็น 2 ระยะหลัก คือ

    • ระยะเริ่มต้น (Prodromal stage) ผู้ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น
      • มีไข้สูง (38°C ขึ้นไป)
      • ปวดศีรษะ
      • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และข้อ
      • อ่อนเพลีย
      • ต่อมน้ำเหลืองบวม (แตกต่างจากไข้ทรพิษที่มักไม่ทำให้ต่อมน้ำเหลืองบวม)
    • ระยะผื่น และตุ่มน้ำ (Rash stage) อาการสำคัญของฝีดาษลิงคือ ตุ่มน้ำ และตุ่มหนองบนผิวหนัง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ โดยจะมีลำดับการพัฒนาดังนี้
      • เริ่มจากผื่นแดงเล็ก ๆ
      • กลายเป็นตุ่มนูนที่มีน้ำขุ่น
      • พัฒนาเป็นตุ่มหนอง และแตกเป็นแผล
      • เกิดสะเก็ดแห้ง และหลุดลอกออก
      • ผื่นมักเกิดขึ้นบริเวณ ใบหน้า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า อวัยวะเพศ และลำตัว และอาจพบในบริเวณที่สัมผัสเชื้อโดยตรง
      • อาการของโรคฝีดาษลิงมักกินเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ และสามารถหายเองได้ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง

    การแพร่เชื้อของโรคฝีดาษลิง

    ฝีดาษลิงสามารถแพร่เชื้อได้ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่

    • การสัมผัสโดยตรงกับผู้ติดเชื้อ
      • การสัมผัสแผล หรือตุ่มหนองของผู้ติดเชื้อ
      • การสัมผัสของเหลวจากตุ่มพุพอง เช่น น้ำเหลือง หรือน้ำหนอง
    • การแพร่กระจายผ่านสารคัดหลั่ง และละอองฝอยน้ำลาย
      • การไอ จาม หรือพูดคุยในระยะใกล้
      • การจูบ หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
    • การสัมผัสกับสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ
      • ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์ที่มีสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
    การรักษาโรคฝีดาษลิงpng

    การรักษาโรคฝีดาษลิง

    ปัจจุบันยังไม่มี ยารักษาฝีดาษลิงโดยเฉพาะ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายได้เอง โดยแนวทางการรักษาประกอบด้วย

    • การรักษาตามอาการ
      • ลดไข้ ด้วยพาราเซตามอล
      • ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
      • พักผ่อนให้เพียงพอ
    • ยาต้านไวรัส ในบางกรณี แพทย์อาจให้ ยาต้านไวรัส Tecovirimat (TPOXX) สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
    • การดูแลแผล หลีกเลี่ยงการแกะตุ่มหนอง และใช้ครีมฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย

    การป้องกันโรคฝีดาษลิง

    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับผู้ติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล ผื่น หรือตุ่มหนองของผู้ที่มีอาการ

     และไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน เสื้อผ้า

    • ป้องกันตนเองจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โรคฝีดาษลิงมีรายงานการแพร่กระจายในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) แต่สามารถเกิดขึ้นกับทุกเพศได้ การใช้ ถุงยางอนามัย อาจช่วยลดความเสี่ยงแต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100%
    • ล้างมือเป็นประจำ ล้างมือด้วยสบู่ และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเมื่อไม่มีน้ำ และสบู่
    • รับวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง ปัจจุบันมี วัคซีน JYNNEOS (MVA-BN) และ ACAM2000 ที่ใช้ป้องกันฝีดาษลิง ซึ่งวัคซีนนี้สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการได้

    อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม

    โรคฝีดาษลิงเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่กระจายจากสัตว์สู่คน และคนสู่คนได้ การป้องกันโรคนี้สามารถทำได้โดย หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ ล้างมือบ่อย ๆ และฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง หากคุณมีอาการที่น่าสงสัย ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษา และลดการแพร่เชื้อ

    การเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เราสามารถควบคุมโรค และลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้ในอนาคต

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save